หลักปฎิบัติในการสื่อสาร : นักวิทยุสมัครเล่น

1. บอกสัญญาณเรียกขานของสถานีเมื่อเริ่มต้นและสิ้นสุดการติดต่อทางวิทยุ และบอกสัญญาณเรียกขานเป็นระยะ ๆ อย่างน้อยทุกสิบนาทีในระหว่างการติดต่อ
2. ใช้ภาษาธรรมดาที่สุภาพ ใชัประมวลสัญญาณ Q และคำย่อต่าง ๆ ที่ใช้ในระบบวิทยุโทรเลขเท่าที่จำเป็น หลีกเลี่ยงศัพท์แสลงเฉพาะกลุ่ม ข้อความกำกวม คำสองแง่สองง่าม ห้ามใช้คำพูดหยาบคาย
3. พูดให้ชัดถ้อยชัดคำ ไม่ช้าไม่เร็วเกินไป สั้น กะทัดรัด และได้ใจความ
4. เมื่อต้องการขอขัดจังหวะ ขณะที่มีผู้ใช้ความถี่อยู่ ต้องหาจังหวะที่คู่สถานีนั้น หมดข้อความที่ต่อเนื่องก่อน แล้วจึงขอแทรกเข้าไป ใช้เวลาให้น้อยที่สุด เพื่อผู้ใช้ความถี่เดิมจะได้สนทนากันต่อ
5. การขอเข้าร่วมสนทนา ก็ต้องรอให้คู่สถานีหมดข้อความที่ต่อเนื่องเสียก่อน ควรแสดงความสนใจต่อเรื่องที่กำลังสนทนากันอยู่ และควรจะทักทายและขานสัญญาณเรียกขานของทุกคนที่กำลังอยู่ในความถี่นั้น และคุยกันทุกคนในความถี่ อย่าทิ้งให้ใครบางคนเป็นผู้ฟังอย่างเดียวโดยไม่มีโอกาสพูด
6. ใช้ความถี่ให้สั้นที่สุดเท่าที่ทำเป็น เพื่อเปิดโอกาสให้สถานีอื่น ๆ
7. ข้อห้ามเด็ดขาดของการพูดบนความถี่วิทยุสื่อสารคือ ไม่พูดในเชิงธุรกิจ โฆษณา ค้าขาย ไม่ว่าจะแอบแฝงในรูปแบบใด ไม่วิพากษ์วิจารณ์การเมือง ไม่วิพากษ์วิจารณ์ศาสนา หรือพยายามเพยแพร่ศาสนา เพราะทั้ง 3 กรณีนี้ คือบ่อเกิดของความขัดแย้ง
การใช้วาจาเพื่อการสื่อสารที่ดี ให้ยึดหลัก ปิยวาจา ได้แก่ วาจาที่เป็น ความจริง มีความไพเราะน่าฟัง เหมาะสมกับเวลาและโอกาส และเป็นวาจาที่ ไม่สร้างความเสียหายให้กับผู้อื่น...
ความรู้สำหรับนักวิทยุสมัครเล่น
สัญญาณเรียกขานสากล : สถานีวิทยุทุกแห่ง จะต้องมีชื่อประจำสถานีตามข้อตกลงสากล เรียกกว่าสัญญาณเรียกขาน หรือคอลซายน์ (Call Sign) ซึ่งจะต้องมีคำนำหน้าสัญญาณเรียกขาน หรือ Prefix ที่กำหนดโดย สหภาพโทรคมนาคม (International Telecommunication Union - ITU)
เพื่อให้ทราบว่าเป็นสัญญาณมาจากประเทศไหน (เคยกล่าวไปในหัวข้อ "วิทยุสมัครเล่น") จะเห็นว่า Prefix ของประเทศที่ยื่นขอในช่วงหลัง ๆ เมื่อ Prefix ที่เป็นตัวอักษรหมดแล้ว มักจะมีตัวเลขผม . หรือนำหน้าด้วยตัวเลข เช่น มาเลเซีย ได้ 9M , 9W บังคลาเทศได้ S2 หรือของไทยเองเมื่อใช้ HS เต็ม เรายื่นขอใหม่ ก็ได้ E2 มา
เพื่อให้ทราบว่าเป็นสัญญาณมาจากประเทศไหน (เคยกล่าวไปในหัวข้อ "วิทยุสมัครเล่น") จะเห็นว่า Prefix ของประเทศที่ยื่นขอในช่วงหลัง ๆ เมื่อ Prefix ที่เป็นตัวอักษรหมดแล้ว มักจะมีตัวเลขผม . หรือนำหน้าด้วยตัวเลข เช่น มาเลเซีย ได้ 9M , 9W บังคลาเทศได้ S2 หรือของไทยเองเมื่อใช้ HS เต็ม เรายื่นขอใหม่ ก็ได้ E2 มา
ทำไมต้อง HS
ประเทศที่ขอ Prefix ได้ในช่วงเวลาใกล้ ๆ กับก็มักจะเลือกสัญญาณเรียกขานที่บ่งถึงประเทศตัวเอง เช่น ญี่ปุ่น หรือ เจแปนได้ JA ส่วนเยอรมันซึ่งเรียกตัวเองว่า ดอยช์แลนด์ก็ได้ DL แล้วคำว่า HS ที่นำหน้าสถานีของประเทศไทยนั้น หมายความว่าอย่างไร ท่านอาจารย์อุดม จะโนภาษ เขียนไว้ว่า
"เรื่องนี้ พระวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าเปรมบุรฉัตร ไชยา ซึ่งเป็นโอรสของเสด็จในกรม กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน เล่าให้ผมฟังว่า ในขณะนั้นยังมีอักษรอื่นก่อนตัว HS ที่ทรงเลือกอักษร HS เพราะจะให้หมายความว่า His Mafesty The King of SIAM ในสมัยนั้นประเทศไทยยังเรียกว่า SIAM อยู่ เวลาเรียกขานทางวิทยุทีหนึ่งก็จะเป็นการถวายความเคารพ พระบาทสเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประเทศไทยจึงมีสัญญาณเรียกขานทางวิทยุว่า HS ตั้งแต่บันนั้นมา สถานีโทรทัศน์ เช่น สถานีโทรทัศน์กองทัพบก มี สัญญาณเรียกขานทางวิทยุว่า HAATV เป็นต้น"
ใครที่มีสัญญาณเรียกขานที่ขึ้นต้นด้วย HS ขอได้ภูมิใจ และรักษาไว้ให้ดีนะครับ :>การออกเสียง Phonetic
แต่ละภาษา จะมีตัวอักษรที่ออกเสียงคล้าย ๆ กันอยู่บ้าง เมื่อฟังไม่ชัด จะทำให้สับสน ดังนั้น จึงมีการกำหนดการออกเสียงของตัวอักษรแต่ละตัวให้ต่างกัน โดยเอาคำที่ใช้บ่อย ๆ ฟังปุ๊ปจะรู้ทันทีว่าใช้ตัวอักษรอะไร เช่น ภาษาไทย ตัว ก ค ฆ หรือ ส ษ ศ เราก็กำหนดให้เป็น ก ไก่ ค ควาย ฆ ระฆัง หรือ ส ที่ใช้เขียนคำว่า เสือ ษ ที่ใช้เขียนคำว่า ฤาษี หรือ ศ ที่ใช้เขียนคำว่า ศาลา เป็นต้น ภาษาอังกฤษ ยิ่งมีคำที่ออกเสียงคล้ายกันมาก เช่น อี บี พี ที ดี จี จึงมีการกำหนดให้ออกเสียงเป็นพยางค์ที่เข้าใจง่าย เรียกว่า โฟเนติก โดยสหภาพโทรคมนาคมสากล (ITU) สำหรับการสื่อสารทางวิทยุของนักวิทยุสมัครเล่น และวิทยุเรือ
นอกจากชุดนี้ ยังมีโฟเนติกที่กำหนดโดย สหภาพวิทยุการบินสากล ซึ่งออกเสียงต่างออกไป และยังมีโฟเนติกอื่น ๆ ที่เข้าใจกันเฉพาะกลุ่ม
วัตถุประสงค์ของการใช้โฟเนติก คือเพื่อให้เข้าใจตรงกัน ว่ากำลังพูดถึงตัวอะไรอยู่ ดังนั้น บางคนจะใช้ต่างออกไป ก็ไม่ผิดกติกา ขอให้สื่อสารกันให้รู้เรื่องเท่านั้น
"วิทยุสมัครเล่น จะใช้โฟเนติกของ ITU เป็นหลัก"
การกำหนดนั้น เน้นให้คนจากทุกภูมิภาคของโลก สามารถออกเสียงได้ บางคำจึงออกจะฟังดูประหลาด สำหรับคนที่ใช้ภาษาอังกฤษ เป็นประจำ....
Phonetic alphabet
A Alfa
B Bravo
C Charlie
D Delta
E Echo
F Foxtrot
G Golf
H Hotel
I India
J Juliett
K Kilo
L Lima
M Mike
N November
O Oscar
P Papa
Q Quebec
R Romeo
S Sierra
T Tango
U Uniform
V Victor VITHA
W Whiskey
X X-ray
Y Yankee
Z Zulu
1-0 One-Zero
B Bravo
C Charlie
D Delta
E Echo
F Foxtrot
G Golf
H Hotel
I India
J Juliett
K Kilo
L Lima
M Mike
N November
O Oscar
P Papa
Q Quebec
R Romeo
S Sierra
T Tango
U Uniform
V Victor VITHA
W Whiskey
X X-ray
Y Yankee
Z Zulu
1-0 One-Zero
การอ่านออกเสียงนามเรียกขานภาษาอังกฤษของนักวิทยุสมัครเล่น
A = ALFA (อัล-ฟ่า)
B = BRAVO (บรา-โว่)
C = CHARLIE (ชา-ลี)
D = DELTA (เดล-ต้า)
E = ECHO (เอิ๊ก-โค่)
F = FOXTROT (ฟร๊อก-ท๊อก)
G = GOLF (กอล์ฟ)
H = HOTEL (โฮ-เทล)
I = INDIA (อิน-เดีย)
J = JULIET (จู-เลียต)
K = KILO (กิ-โล)
L = LIMA (ลิ-ม่า)
M = MIKE (ไมค์)
N = NOVEMBER (โน-เวม-เบอร์)
O = OSCAR (อ๊อด-สะ-ก้า)
P = PAPA (ปา-ป้า)
Q = QUEBEC (คิว-เบิ๊ก)
R = ROMEO (โร-มิ-โอ)
S = SIERRA (เซีย-ร่า)
T = TANGO (แทง-โก้)
U = UNIFORM (ยู-นิ-ฟอร์ม)
V = VICTOR (วิก-เตอร์)
W = WHISKEY (วิส-สะ-กี้)
X = X-RAY (เอ๊กซ-สะ-เรย์)
Y = YANKEE (แยง-กี้)
Z = ZULU (ซู-ลู)
B = BRAVO (บรา-โว่)
C = CHARLIE (ชา-ลี)
D = DELTA (เดล-ต้า)
E = ECHO (เอิ๊ก-โค่)
F = FOXTROT (ฟร๊อก-ท๊อก)
G = GOLF (กอล์ฟ)
H = HOTEL (โฮ-เทล)
I = INDIA (อิน-เดีย)
J = JULIET (จู-เลียต)
K = KILO (กิ-โล)
L = LIMA (ลิ-ม่า)
M = MIKE (ไมค์)
N = NOVEMBER (โน-เวม-เบอร์)
O = OSCAR (อ๊อด-สะ-ก้า)
P = PAPA (ปา-ป้า)
Q = QUEBEC (คิว-เบิ๊ก)
R = ROMEO (โร-มิ-โอ)
S = SIERRA (เซีย-ร่า)
T = TANGO (แทง-โก้)
U = UNIFORM (ยู-นิ-ฟอร์ม)
V = VICTOR (วิก-เตอร์)
W = WHISKEY (วิส-สะ-กี้)
X = X-RAY (เอ๊กซ-สะ-เรย์)
Y = YANKEE (แยง-กี้)
Z = ZULU (ซู-ลู)
ตัวอย่างเช่น E20TSW คือ ECHO-TW0-ZERO-TANGO-SIERRA-WHISKEY (เอ๊ก-โค่-ทู-ซีโร่-แทงโก้-เซียร่า-วิสกี้)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น